CASINO ONLINE

CASINO ONLINE
CASINO ONLINE

Friday, December 20, 2019

อาหารกลางวันสำคัญไฉน?

         อาหารกลางวัน 

           การเลือกกินอาหารในหลายๆครั้งไม่ใช่เพียงเพื่อทุเลาความโหยหิว หากแต่ว่าเป็นการสะท้อนวิถีทางคิด อัตลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม และก็ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของผู้รับประทาน จนกระทั่งการเลือกเสิร์ฟอาหารของเชฟ หรือในร้านอาหารก็ยังเป็นความอยากได้แสดงออกถึงความสามารถสำหรับเพื่อการคัดสรรวัตถุดิบมาแต่งรส รวมทั้งยังมีคุณประโยชน์สำคัญอีกมากมายที่หลบเร้นอยู่ในอาหารพวกนั้น

          อาหารในโรงเรียนก็เหมือนกัน นอกเหนือจากการที่จะมีไว้เพื่อนักเรียนทุกคนอิ่มท้อง ของกินแต่ละมื้อยังแสดงความนิยม และทัศนคติของผู้จัดหาอาหารว่า เขาให้ความเอาใจใส่กับโภชนาการของอาหารแต่ละมื้อของเด็กๆเพียงใด แล้วหลังจากนั้นก็เขาอยากได้หล่อเลี้ยงนักเรียนของเขาให้เติบโตขึ้นด้วยอาหารพวกใด



       นอกเหนือจากการหาอาหารในปริมาณที่พอเพียงต่อสิ่งที่จำเป็นของนักศึกษาแล้ว สถานศึกษาหลายที่ในประเทศอเมริกายังให้ความเอาใจใส่ต่อการกำหนดหมวดของของกินให้แก่นักเรียนของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยความไว้ใจที่ว่า ของกินที่มีสาระจำทำให้นิสิตอ่อนเพลียกับการศึกษาต่ำลง มีส่วนร่วมในชั้นเรียนมากเพิ่มขึ้นทั้งเพิ่มความรู้ความเข้าใจศึกษาได้มากขึ้น

             บางโรงเรียนในประเทศสหรัฐฯ ใช้กรรมแนวทางหาอาหารมื้อเช้าตรู่มาให้เด็กนักเรียน ซึ่งคำตอบที่เกิดขึ้นเป็น ปริมาณของเด็กนักเรียนที่มาสถานที่เรียนมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆการปฏิบัติทางการเรียนได้รับการพัฒนาในทางบวก และก็ยังพบว่านักเรียนมีสมาธิสำหรับในการเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ

แหล่งที่มา  :  educathai


Monday, December 9, 2019

ขนมเค้กไข่ไต้หวัน หอมอร่อย พร้อมแนวทางการทำ

ขนมเค้กไข่ไต้หวัน ทำกินเองได้ง่ายๆ



ส่วนประกอบ ไข่แดง
ไข่แดง (เบอร์ 2) 7 ฟอง
แป้งเค้ก 150 กรัม
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
นมข้นจืด 145 กรัม
กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 100 กรัม
ส่วนประกอบ ไข่ขาว
ไข่ขาว (เบอร์ 2) 7 ฟอง
ครีมออฟทาร์ทาร์ (หรือน้ำมะนาว) 1 ช้อนชา
น้ำตาล 100-120 กรัม (สามารถเพิ่ม-ลดน้ำตาลได้)
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา

วิธีการทำขนมเค้กไข่ไต้หวัน
1. ทำส่วนประกอบไข่แดงโดยร่อนแป้งขนมเค้กกับเกลือป่น โดยประมาณ 2 รอบ การร่อนแป้งจะมีผลให้กรองเศษฝุ่น รวมทั้งระหว่างที่ร่อนแป้ง อากาศจะเข้าแทรกระหว่างเนื้อแป้งทำให้แป้งฟูและก็ค่อยขึ้นไปอีก
2. เทน้ำมันพืชใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนน้ำมันร้อน เสร็จแล้วปิดเตา (หรือนำน้ำมันพืชเข้าไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที) ใส่แป้งเค้กลงไป ขั้นตอนนี้ทำให้ขนมเค้กมีความอ่อนนุ่มและก็ค่อยโดยที่ไม่ต้องพึ่งสารเสริมอะไรก็ตามไขมันจะฉาบแป้งไว้ ไม่ให้แป้งสัมผัสกับน้ำ ด้วยเหตุว่าในขณะที่แป้งสัมผัสกับน้ำหรือของเหลวจะมีผลให้กำเนิดกลูเตน กลูเตนจะมีความเหนียว ถ้าตะล่อมแป้งกับน้ำนานๆก็เลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้ขนมเค้กเหนียวได้ ใช้ไม้พายคนให้คลายร้อนลงบ้าง
3. ใส่นมข้นจืด เพื่อเพิ่มความหอมนุ่มแล้วก็รสที่กลมกล่อมละมุนละไมมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นคนหรือตะล่อมให้เหมาะ ใส่ไข่แดงลงไป เพิ่มความหอมด้วยกลิ่นวานิลลา ตะล่อมให้เหมาะรวมทั้งพักไว้
4. ทำส่วนประกอบไข่ขาวโดยตีไข่ขาวจนกระทั่งเป็นฟองหยาบ ต่อจากนั้นใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ (ครีมออฟทาร์ทาร์จะช่วยปรับไข่ตีขึ้นฟูง่าย รวมทั้งทำให้ฟองอากาศที่ตีอัดเข้าไปมีความอยู่ตัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่ยุบง่าย) ตีพอเพียงถูกกัน ใส่แป้งข้าวโพด (เพื่อเพิ่มความนิ่มรวมทั้งยืดหยุ่นให้กับขนมเค้ก) ตีพอเพียงเหมาะ
5. ทยอยใส่น้ำตาลลงไป (น้ำตาลแบ่งใส่สัก 3 รอบ ถ้าเกิดใส่ไปทีเดียวฟองอากาศบางทีก็อาจจะยุบได้ รวมทั้งน้ำตาลก็จะละลายช้าด้วย) ตีกระทั่งตั้งยอด ตักเมอแรงค์หรือไข่ขาวมาบางส่วนใส่ถ้วยชามส่วนประกอบไข่แดง (ถ้าเกิดใส่ไปทีเดียวหมดจะผสมถูกกันยากกว่า แล้วก็ทำให้เสียฟองอากาศเยอะ เป็นต้นเหตุที่ทำให้ขนมเค้กไม่ขึ้นฟู) ตะล่อมค่อยกระทั่งเหมาะ เพียงพอเหมาะแล้วหลังจากนั้นก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนถึงเนียนเหมาะ
6. เทใส่พิมพ์ที่จัดเตรียมไว้ (พิมพ์รองด้วยกระดาษลอกลาย ก่อนเอากระดาษลอกลายรองอย่าลืมทาไขมันหรือเนยบนถาดด้วย) เคาะพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศสัก 1-2 ครั้ง ถ้าเกิดยังมีฟองอยู่ก็เอาไม้จิ้มฟันเจาะฟองออก ขนมเค้กอบมาหน้าจะได้งามๆไม่มีรูพรุน
7. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส บนถาดน้ำร้อน อบเป็นเวลา 35-40 นาที แล้วแต่เตาแต่ละบ้านด้วย บางเตาบางครั้งก็อาจจะอบนานถึง 50 นาทีเลยก็ได้ (การอบบนถาดน้ำร้อนจะมีผลให้ขนมเค้กมีความชื้นขึ้น) เปิดไฟบน-ด้านล่าง ปิดพัดลม จากนั้นอบไล่ความชุ่มชื้นเอาถาดรองน้ำร้อนออก อบต่อด้วยอุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส ตรงเวลา 8-10 นาที เปิดไฟบน-ด้านล่าง ปิดพัดลม (เช็กความสุกโดยการเอาไม้ปลายแหลมจิ้มลงไป ถ้าเกิดไม่มีเศษขนมเค้กแฉะๆติดออกมา หมายความว่าขนมเค้กสุกก็ดีจ้ะ) ถ้าหากไม่สะดวกรองด้วยถาดน้ำก็สามารถอบแบบปกติที่อุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30-35 นาที
8. พออบเสร็จพักให้อุ่นลงโดยประมาณ 10 นาที และหลังจากนั้นก็ค่อยเอาขนมเค้กออกมาจากพิมพ์ ลอกกระดาษลอกลายออก กลับขนมเค้กอีกด้านขึ้นมา และก็ตัดขนาดตามพอใจ

แหล่งที่มา cooking.kapook