CASINO ONLINE

CASINO ONLINE
CASINO ONLINE

Thursday, April 30, 2020

ปูไข่ดองไข่เยิ้ม พร้อมน้ำจิ้มสุดแซ่บ เห็นแล้วน้ำลายยังเยิ้ม

ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ อยู่บ้านนานๆ คนคงจะอยากกินอาหารหลายอย่างแตกต่างกันไป


บางคนอยากกินชาบู บางคนอยากกินปิ้งย่าง หรืออยากจะกินอาหารทะเล แต่หนึ่งในอาหารที่ยอดฮิตซึ่งใครต่อใครเห็นก็ต้องอยากทานนั่นก็คือ ปูไข่ดอง ในเมื่อออกไปทานที่ร้านกันไม่ได้ เรามีสูตรการทำปูไข่ดองมาฝากกันครับ ให้คุณได้ดองปูทานกันที่บ้านให้ อร่อย หนำใจ จริงๆ

ส่วนประกอบ

-ปูทะเลตัวเมีย 2-3 ตัว

-น้ำปลาอย่างดี 2 ขวดใหญ่

-พริกขี้หนู

-น้ำตาลปี๊บ

-กระเทียม

-มะนาว

-เกลือ

-ผักชี

-ใบสะระแหน่

วิธีทำ

-ทำความสะอาดปูขัดคราบดำออก และตัดปลายขาปูและดึงปากปูออก

-จากนั้นแกะกระดองปูด้วยความระมัดระวังอย่าให้ไข่และมันปูแตกออกจากกัน หลังจากนั้นดึงเอานมปูออกให้หมด แล้วขัดทำความสะอาดส่วนด้านในปูอีกครั้ง

-ทุบกล้ามปูให้พอแหลกเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

-เอาน้ำตาลปี๊บมาเคี่ยวกับน้ำเปล่าให้ละลายแล้วใส่น้ำปลาอย่างดีลงไปเคี่ยวให้งวดแล้วพักไว้ให้เย็น

-จากนั้นนำปูทั้งหมดมาเรียงในกล่องแล้วเทราดด้วยน้ำปลาเคี่ยวให้ท่วมตัวปู พร้อมกับใส่กระเทียมหั่นแว่นลงไปทั่วๆ น้ำปลา แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง

-เตรียมน้ำจิ้มซีฟู้ดไว้ทานกับปูดอง ใส่พริกขี้หนู กระเทียม น้ำมะนาว น้ำปลา เกลือ น้ำตาลปี๊บ และผักชี จากนั้นนำไปปั่นให้เข้ากันพอละเอียดเป็นอันเสร็จ

-จากนั้นนำปูที่แช่น้ำปลาไว้ออกมาจากฟรีซ ตักปูออกจากน้ำปลาแล้วจัดเรียงลงจาน ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดลงไปให้ทั่วตัวปู แล้วตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ และกระเทียมหั่นแว่น เป็นเสร็จพร้อมทาน



Tuesday, April 28, 2020

“ไก่รวนพริกไทยดำ” สูตรด็ดประโยชน์เยอะ


วันนี้เราจะมาแปลงร่างจากไก่ต้ม ที่แสนจะธรรมดา ให้เป็น“ไก่รวนพริกไทยดำ” สุดพิเศษให้ทุกคนได้ลองชิม ถึงความอร่อย และได้ประโยชน์อีกมากมายจากพริกไทยดำ

ส่วนผสม

-ไก่ต้ม 1 ตัว

-พริกไทยดำเม็ด 1 ถ้วย

-ผักชี 1 ต้น

-รากผักชี 3 ราก

-เกลือ 1/2 ช้อนชา

-น้ำผึ้ง1ช้อนชา

-ซอสปรุงรส1ช้อนชา

-ข้าวสวย1ถ้วย

วิธีทำ

-นำไก่ต้มส่วนที่เหลือจากการไหว้เจ้า มาฉีก หรือหั่นเนื้อไก่ออกเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในชามผสม

-นำรากผักชีและเม็ดพริกไทยดำไปโขลกให้พอละเอียดและได้กลิ่นหอม

-ใส่เครื่องที่นำไปโขลกลงในเนื้อไก่ฉีก จากนั้นเติมรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วย น้ำผึ้ง ซอสปรุงรส และเกลือเล็กน้อย

-จากนั้นนำ เนื้อไก่ ต้มที่ฉีกแล้วไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเครื่องโขลก แล้ววางพักไว้ประมาณ 30 นาที

-เมื่อครบ 30 นาทีหรือคิดว่าเครื่องโขลกเข้ากันกับเนื้อไก่ต้มแล้ว ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง และใส่เนื้อไก่หมักเครื่องพริกไทยลงไปคั่วโดยไม่ต้องใส่น้ำมัน

-รวนไก่ไปเรื่อย ๆ จนไก่แห้งพร้อมกิน

-จากนั้นนำไก่ที่แห้ง และหอมน่าทานไปจัดใส่จาน ตกแต่งให้มื้อนี้ของคุณดูดีมากขึ้นด้วยผักชี และพริกไทยป่น

เสร็จกันไปแล้วนะคะกับเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยเลิศ ที่จะช่วยทำให้ของดีที่มีอยู่ไม่เสียของไปเปล่า ๆ แถมได้นำไปต่อยอดเป็นเมนูเด็ดอื่น ๆ ให้ครอบครัวและคนที่รักได้กินกันอีกด้วย แต่นอกจากเมนูไก่รวนคั่วพริกไทยดำแล้ว

ประโยชน์และสรรพคุณพริกไทย

-ขับลมในลำไส้  ขับลมในท้อง
-แก้ปวดท้อง
-ช่วยขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
-ใช้เป็นสมุนไพรลดน้ำหนัก
-แก้ลมวิงเวียน
-ช่วยย่อยอาหาร
-แก้ลมพรรดึก (ก้อนอุจจาระที่แข็งกลม)
-แก้อติสาร (โรคลงแดง)
-แก้ลมจุกเสียด แก้แน่น ปวดมวนในท้อง
-แก้เสมหะ แก้ไอ
-บำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร ขับผายลม
-ช่วยให้เจริญอาหาร
-ขับเหงื่อ ลดความร้อนในร่างกาย
-ช่วยขับปัสสาวะ
-เป็นยาอายุวัฒนะ


Monday, April 27, 2020

“กะพงเย็นตาโฟผัดแห้ง” เมนูยอดฮิต ติดปากของคนไทย

เย็นตาโฟถือเป็นเมนูยอดฮิตของคนไทยมานาน แต่ในการทำเมนู "กะพงเย็นตาโฟผัดแห้ง" วันนี้เราจะปลากระพงเป็นส่วนประกอบในจานนี้ จะอร่อยและน่าประทับใจแค่ไหน ไปทำจานนี้กันเลย


ส่วนผสมกะพงเย็นตาโฟผัดแห้ง

-เนื้อปลากะพงขาว 120 กรัม 2 ชิ้น

-เกลือ1ช้อนชา

-แป้งสาลีน้ำมันพืช (สำหรับทอด)1/2 ถ้วย

-กระเทียมสับ 1 ช้อนชา

-น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

-ผักบุ้ง 2 ถ้วย

-เส้นใหญ่ 1/2 ถ้วย

-เห็ดหูหนูขาวแช่น้ำแล้ว 1 ถ้วย

-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

-น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำซอสเย็นตาโฟ (เต้าหู้ยี้, พริกศรีราชา, น้ำตาล, น้ำส้มสายชู, กระเทียมดอง) 3 ช้อนโต๊ะ

-น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำกะพงเย็นตาโฟผัดแห้ง

-นำเส้นใหญ่ผสมกับน้ำเย็นตาโฟ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากัน เพื่อให้เส้นใหญ่ไม่ติดกันเป็นก้อนและได้สีสันสุดจี๊ด

-นำเนื้อปลากะพงขาว คลุกกับเกลือและแป้งสาลีบางๆ ให้ทั่ว

-ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช รอจนร้อน ค่อยๆ หย่อนเนื้อปลากะพงขาวลงไปทอด และเมื่อเนื้อปลาเริ่มเปลี่ยนสีค่อยๆ พลิกสลับด้าน และทอดต่อไปจนไปเป็นเหลืองทองสวยงาม แล้วพักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน

-จากนั้นตั้งกระทะอีกครั้ง แต่ติดไฟปานกลางแล้วใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย เมื่อกระทะเริ่มร้อนใส่กระเทียม เห็ดหูหนูขาว และเส้นใหญ่

-ปรุงรสด้วยน้ำเปล่า น้ำปลา น้ำมันหอย น้ำตาล ตามด้วยผักบุ้ง แล้วผัดให้เข้ากัน

-ใส่เนื้อปลากะพงขาว ตามด้วยน้ำซอสเย็นตาโฟคลุกเคล้าเบาๆ แล้วปิดไฟ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เย็นตาโฟถือเป็นเมนูยอดฮิตของคนไทยมานาน มีซอสสำเร็จรูปรสชาติดีให้เลือกมากมาย แต่ในการทำเมนู กะพงเย็นตาโฟผัดแห้ง เทคนิคที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ การทอดปลากะพง คนสมัยก่อนกินปลาเป็นอาหารหลัก และมีเทคนิคในการนำมาประกอบอาหารมากมาย ซึ่งเทคนิคการทอดปลานั้นง่ายนิดเดียว เพียงแค่เลือกเนื้อปลาที่สด สะอาด มีมาตรฐาน จะทำให้เนื้อปลาไม่ยุ่ยเมื่อนำไปทอด แต่เทคนิคหลักคือน้ำมันต้องเยอะท่วมชิ้นปลา อย่าพลิกปลาบ่อยเพราะจะทำให้ติดกระทะ และใช้ไฟกลางถึงร้อนจัด เพียงเท่านี้ก็จะได้เนื้อปลาสีทองสวยน่ากิน

Sunday, April 26, 2020

สูตรหมักน่องไก่ติดสะโพก อร่อย นุ่ม รสเลิศ

การหมักไก่ให้ออกมาอร่อย นุ่ม ไม่ใช่เรื่องยาก หัวใจหลักของการหมักมีอยู่ 2 ข้อเท่านั้น คือ การทำให้เนื้อนุ่ม ด้วยการใช้เครื่องปรุงที่มีฤทธิ์กรดอ่อนๆ เช่น น้ำส้มสายชู ไวน์ น้ำมัน โยเกิร์ต และการปรุงแต่ง กลิ่น รสชาติให้เข้าเนื้อ ด้วยเกลือ พริกไทย เครื่องเทศ สมุนไพรต่างๆ ยิ่งมีสูตรเป็นตัวช่วย คุณก็สามารถทำตามได้เลย


วันนี้อยากให้ลอง สูตรหมักน่องไก่ติดสะโพก ที่รับรองถูกปากถูกใจ ทำทานเองได้ ทำขายก็กำไรปัง เตรียมหุงข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อนๆ

สูตรหมักไก่กับสามเกลอ

 ส่วนผสม 

-น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น

-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำตาล 1 ช้อนชา

-พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ

-กระเทียมไทย 3 ช้อนโต๊ะ

-รากผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ

สูตรไก่หมักน้ำมันงา

ส่วนผสม 

-น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น

-น้ำตาล 1 ช้อนชา

-น้ำมันงา 1 ช้อนชา

-ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม 1 ช้อนชา

-พริกไทยดำเกล็ด 1 ช้อนชา

สูตรไก่หมักบาร์บีคิว

ส่วนผสม 

-น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น

-ซอสบาร์บีคิว 4 ช้อนโต๊ะ

-พริกไทยอ่อน 3 ช้อนโต๊ะ

-หัวหอมใหญ่หั่นเป็นชิ้น 1 หัวเล็ก

สูตรไก่หมักรสเผ็ดสไตล์อีสาน

ส่วนผสม 

-น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น

-น้ำปลา 1/2  ช้อนโต๊ะ

-ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

-ซอสปรุงอาหาร 1/2  ช้อนโต๊ะ

-พริกป่น 1/2  ช้อนโต๊ะ

สูตร ไก่หมักแบบสวีดีช

ส่วนผสม 

-น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น

-เกลือ 1/2  ช้อนชา

-น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำผึ้งดอกลำไย 2 ช้อนโต๊ะ

-มาสตาร์ด 1 ช้อนโต๊ะ

-ผักชีลาว 1/2 ถ้วย

-มะนาวเลมอนสไลด์ 1 ลูก

วิธีทำ

-เลือกสูตรหมักไก่ที่ต้องการ จากนั้นนำส่วนผสมของสูตรหมักที่เลือกไว้มาผสมลงในถ้วยที่เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน

-จากนั้นนำเทสโก้ น่องไก่ติดสะโพกลงคลุกกับส่วนผสม แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที

-นำไปย่างใช้เวลาประมาณ 45 นาที เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับการหมัก
การเลือกใช้ภาชนะที่เป็นแก้ว กระเบื้อง หรือพลาสติกในการหมัก ไม่ควรใช้ภาชนะจำพวกสแตนเลส เพราะภาชนะจำพวกสแตนเลสจะทำปฏิกิริยากับกรดในน้ำหมัก ทำให้อาหารเสียรสชาติได้
การหมักเนื้อสัตว์ในถุงพลาสติกซิปล็อค จะช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ แถมสะดวกในการนวดให้เครื่องปรุงซึมเข้าชิ้นเนื้อได้ง่ายอีกด้วย
หากเครื่องปรุงที่ใช้ในการหมักเหลือ สามารถใช้เป็นซอสทาลงบนเนื้อระหว่างปิ้งเพิ่มรสชาติหรือนำมาเคี่ยวทำเป็นซอสแทนที่จะทิ้ง

ซึ่งนอกจากไก่แล้ว คุณยังสามารถนำ 5 สูตรนี้ไปประยุกต์ใช้กับเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้อีกด้วย และไม่ว่าจะหมักสูตรไหน หรือสไตล์ใด ที่สำคัญคือ ระยะเวลาการหมักกับชนิด และขนาดของเนื้อสัตว์ เพราะเนื้อสัตว์บางชนิดดูดซึมน้ำหมักได้เร็ว เช่น ปลา กุ้ง ควรหมักเพียง 20 - 30 นาทีเท่านั้น หากทิ้งไว้นานจะมีรสจัดเกินไปได้ หรือเนื้อไก่ส่วนน่อง อาจหมักเข้าเนื้อง่ายกว่าส่วนอกที่หนากว่า ส่วนไก่ทั้งตัวอาจจะต้องหมักทิ้งไว้ 1 - 2 วัน โดยหมั่นกลับด้านเพื่อให้เครื่องหมักกระจายให้ทั่วชิ้นเนื้อด้วย


Saturday, April 25, 2020

เมนูสายคลีน “โรลทูน่าสไปซี่” มื้อเช้าง่าย ๆ ที่ให้ประโยชน์เยอะ

สายคลีน เน้นเป็นผักสดๆ กับเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เพิ่มความแซ่บด้วยซอสสูตรพิเศษ อร่อยเข้ากันดีกับ "โรลทูน่าสไปซี่" คำโต ๆ เหมาะสำหรับเป็นมื้อเช้าง่าย ๆ ที่ให้ประโยชน์และพลังงานกำลังดี



ส่วนผสม

-แผ่นแป้งตอร์ติญา 2 - 3 แผ่น

-ปลาทูน่าในน้ำแร่ 1 กระป๋อง

-ผักกาดแก้ว 1 หัว

-แตงกวา 2 ลูก

-แครอท 2 หัว

-ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ

-มายองเนสแบบไขมันต่ำ 2 ช้อนโต๊ะ

-ผงปาปริก้า 1 ช้อนชา

วิธีทำ

-ล้างแตงกวา ผักกาดแก้ว และแครอทให้สะอาด จากนั้นปอกเปลือกแครอทให้เรียบร้อย หั่นแตงกวากับแครอทเป็นแท่ง ๆ โดยแตงกวานั้นให้ตัดเอาตรงไส้ออก เวลานำไปม้วนโรลเนื้อสัมผัสจะได้กรอบอร่อย ส่วนผักกาดแก้วให้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอประมาณ

-ทำซอสสไปซี่โดย ผสมมายองเนส ซอสพริก และผงปาปริก้า จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

-วางแผ่นแป้งตอร์ติญา ตามด้วยผักกาดแก้ว แครอท แตงกวา

-จากนั้นใส่เนื้อทูน่าตามลงไป จากนั้นราดด้วยซอสสไปซี่ที่ทำไว้ แล้วม้วนแป้งห่อไส้ให้เรียบร้อย กลัดด้วยไม้จิ้มฟันเอาเพื่อไว้ไม่ให้แป้งคลี่ออก

-จากนั้นนำโรลทูน่าสไปซี่ มาหั่นครึ่งแล้วจัดใส่จาน พร้อมรับอร่อยได้เลย หรือใครสะดวกกินโรลม้วนใหญ่ ๆ ก็ไม่ว่ากัน

เมนูที่ทำง่ายมาก ๆ ใช้เวลาไม่นานเราก็สามารถอร่อยกับเมนูสดใหม่ดีต่อสุขภาพกันแล้ว ใครที่มีชั่วโมงเร่งรีบเป็นประจำ ลองทำเมนูนี้ก่อนจะออกไปเรียนหรือไปทำงานดูนะ รับรองว่าสะดวกรวดเร็ว แถมยังอยู่ท้องได้ดีจริง ๆ

Thursday, April 23, 2020

“ยำเบอร์รี่ ” เมนูสุดเฮลท์ตี้ ในจานสุขภาพ

จานสุขภาพดีด้วยเมนูสุดเฮลท์ตี้ แต่ว่าแซ่บในแบบไทย กับรายการอาหาร “ยำเบอร์รี่ ” ศูนย์รวมตระกูลเบอรรี่ อย่างเชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และก็แอปเปิ้ลเขียว มาเพิ่มเติมความแซ่บให้ไม่จําเจ พร้อมอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายก่ายกอง แถมทำง่าย จะทำทานเองคนเดียว หรือชวนเพื่อนมาเฮลท์ตี้อร่อยไปพร้อมกันก็ได้อีกด้วย



ส่วนผสม

-บลูเบอร์รี่ 1/4 ถ้วย

-เชอร์รี่สดหั่นครึ่งลูก 6 ลูก

-สตรอว์เบอร์รี่หั่นครึ่งลูก 4 ลูก

-แอปเปิ้ลเขียว หั่นเต๋า 1/2 ลูก

-น้ำผึ้งดอกลําไย 2 ช้อนโต๊ะ

-พริกขี้หนูสวนสับละเอียด 10 เม็ด

-เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

-ขนมปังกรอบ 1 ถ้วย

วิธีทำ

-เตรียมบลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ และแอปเปิ้ลเขียว โดยหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ

-ทําน้ำยําโดยผสมน้ำผึ้ง พริกขี้หนู และเกลือ แล้วคนให้เข้ากัน

-นําผลไม้ที่เตรียมไว้ลงไปคลุกในน้ำยําให้ทั่ว

-ตักยําเบอร์รี่ใส่จาน แล้วโรยขนมปังกรอบ เท่านี้ก็จะได้เมนู “ยำเบอร์รี่ ” สุดแซ่บ พร้อมเสิร์ฟกันแล้ว

อร่อยแบบเฮลท์ตี้แล้ว รู้หรือไม่ว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้นมีดีมากกว่าความอร่อย เพราะในความเปรี้ยวอมหวานนี้ยังแฝงไปด้วยคุณประโยชน์อีกมากมาย เช่น ช่วยบำรุงสายตา เพิ่มระบบภูมิต้านทาน เสริมความจำให้แม่นยำ ต้านโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ มีเส้นใยอาหารสูง ฯลฯ ประโยชน์เหลือล้นขนาดนี้ อย่าลืมลองไปทำทานกันนะคะ