ขนมหม้อแกง ฟินจนต้องยอมลงพุง
ขนมหม้อแกง หรือ ขนมกุมภมาศ คือขนมที่ใช้ไข่ แป้ง และกะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญ นำผสมกันในถาดตามสัดส่วน แล้วจึงนำไปอบจนหน้าของขนมหม้อแกงมีสีน้ำตาลทอง น่ารับประทาน ปัจจุบันมีการทำเผือก เม็ดบัว ถั่ว และหอมเจียว มาผสม และแต่งหน้าขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
ส่วนประกอบหลักของขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงได้รับความนิยมชมชอบจากชนชั้นสูงในวัง และได้รับการขนานนามว่า ขนมกุมภมาส
ต่อมาเมื่อลูกมือในบ้านของท้าวทองกีบม้า (ภรรยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ขุนนางกรีกที่ทำราชการในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช)ได้แต่งงาน ก็ได้นำสูตรและวิธีการทำขนมหม้อแกงออกมาถ่ายทอด ทำให้ชาวบ้าน คนธรรมดา ได้มีโอกาสรู้จักกับขนมหม้อแกง
เมื่อปีพ.ศ. 2529 จังหวัดเพชรบุรี ได้มีการบูรณะพระนครคีรีให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นทำขนมหม้อแกงที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นออกมาจำหน่าย ทำให้ขนมหม้อแกงเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรี
ขนมหม้อแกงสมัยก่อนจะทำกินกันเฉพาะในงานสำคัญ เช่น งานบวช หรืองานแต่งงาน ซึ่งขนมหม้อแกงนั้นจะถูกอบในเตาถ่านที่ใช้แผ่นสังกะสีมาคลุมบนถาดขนม แล้วใช้ถ่านหรือกาบมะพร้าวจุดไฟ แล้วเกลี่ยให้ทั่วสังกะสี ขนมหม้อแกงจะได้รับความร้อนทั้งด้านบน และด้านล่าง ทำให้หน้าของขนมหม้อแกงมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลทอง
ส่วนผสม
1. ไข่ไก่ 1 ฟอง
2. น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย
3. นมข้นจืด 1 กระป๋อง
4. ใบเตย 4-5 ใบ
5. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
6. เผือกนึ่งบด 1 ถ้วย
7. หอมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ผสมไข่ไก่ นมข้นจืด และน้ำตาลปี๊บ ใส่ถุงมือขยำจนน้ำตาลปี๊บละลาย
2. ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไปแล้วก็ขยำด้วยใบเตยอีกครั้ง และกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนของขนม
3. ใส่เผือกบดลงไป คนให้เข้ากันจากนั้นก็นำหม้อตั้งไฟ ใส่หอมเจียวพร้อมกับน้ำมันของหอมเจียวด้วย
4. เทส่วนผสมลงหม้อ แล้วคนจนขนมข้นเหนียว ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
5. เทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยม เคาะเพื่อไล่อากาศออก แล้วนำเข้าเตาอบ ใช้ไฟ 120 องศา ในเวลา 25 – 30 นาที
6. เสร็จแล้วนำออกมาโรยด้วยหอมเจียวหรือเม็ดบัวก็ได้ค่ะ
No comments:
Post a Comment